ชื่อโครงการวิจัย/ชื่อเรื่อง ระดับ C-reactive Protein, Soluble P-selectin และ Cardiac Troponin I ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ไม่ได้รับการบำ บัดทดแทนไต
ชื่อโครงการวิจัย/ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ Levels of C-reactive Protein, Soluble P-selectin and Cardiac Troponin I in Chronic Kidney Disease Patients without Renal Replacement Therapy
ชื่อนักวิจัย/ชื่อผู้แต่ง ธัชพล นันทขันธ์
ชื่อนักวิจัย/ชื่อผู้แต่ง ภาษาอังกฤษ Tatchapol Nanthakhan
เจ้าของผลงานร่วม Sudawadee Kongkhum
คำสำคัญ Chronic kidney disease, Acute coronary syndrome, C-reactive protein, Troponin I, Soluble P-selectin
หน่วยงาน บัณฑิตศึกษาสาขาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี
ปีที่เผยแพร่ 2565
คำอธิบาย โรคไตเรื้อรังเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก โดยภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันเป็นภาวะ แทรกซ้อนสำคัญที่ทำ ให้ผู้ป่วยเสียชีวิต กลไกการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันเกี่ยวข้องกับการ เกิดโรคหลอดเลือดแข็ง ซึ่งมีการอักเสบและการทำงานของเกล็ดเลือด การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับตัวบ่งชี้การอักเสบ (C-reactive protein, CRP) การทำงานของเกล็ดเลือด (soluble P-selectin, sP-sel) และการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ (cardiac troponin I, cTnI) ในผู้ป่วยโรคไต เรื้อรังระยะที่ 3a ถึง 4 ที่ยังไม่ได้รับการฟอกไต โดยเก็บตัวอย่างพลาสมาจากผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง 171 ราย นำ มาวิเคราะห์ระดับ high-sensitivity C-reactive protein (hs-CRP) ด้วยวิธี immunoturbidimetric assay ระดับ high-sensitivity cTnI (hs-cTnI) ด้วยวิธี chemiluminescence microparticle immunoassay (CMIA) และระดับ soluble P-selectin (sP-sel) ด้วยวิธี enzyme-linked immunosorbent assay (ELISA) ผลการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังซึ่งแบ่งเป็นระยะที่ 3a, 3b และ 4 จำ นวน 41, 65 และ 65 ราย ตามลำดับ พบว่าผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3a, 3b และ 4 มีค่ามัธยฐาน (ค่าพิสัย ระหว่างควอไทล์) ของระดับ hs-CRP เท่ากับ 1.17 (0.54 - 1.62), 1.84 (0.73 - 5.15) และ 2.47 (0.82 - 12.44) มิลลิกรัมต่อลิตรตามลำดับ ระดับ sP-selectin เท่ากับ 56.73 (49.02 - 65.21), 51.02 (40.15 - 63.4) และ 47.97 (32.79 - 66.05) นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรตามลำดับ และระดับ hs-cTnI เท่ากับ 6.3 (3.6 - 9.9), 11.7 (5.6 - 67.39) และ 18.9 (8.4 - 45.6) นาโนกรัมต่อลิตรตามลำดับ ผลการทดสอบ ทางสถิติพบว่าระดับ hs-CRP และ hs-cTnI เพิ่มขึ้นตามระยะของโรคไตเรื้อรังอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.002 และ < 0.001 ตามลำดับ) ในขณะที่ระดับ sP-sel ลดลงในโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4 เมื่อเทียบ กับระยะที่ 3a (p = 0.016) และ 3b (p = 0.183) นอกจากนี้ ระยะของโรคไตเรื้อรังยังมีความสัมพันธ์ เชิงบวกกับระดับ hs-CRP และ hs-cTnI อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.165, p = 0.016 และr = 0.318, p < 0.001 ตามลำดับ) แต่มีความสัมพันธ์เชิงลบกับค่า sP-sel อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = -0.188, p = 0.006) จากผลการศึกษานี้สรุปได้ว่าผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีตัวบ่งชี้ภาวะอักเสบและการ บาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับระยะของโรค การศึกษาเพิ่มเติมจะนำไปสู่การประยุกต์ ใช้การตรวจ hs-CRP และ hs-TnI ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจ ขาดเลือดเฉียบพลันได้
กลุ่มการนำไปใช้ประโยชน์ ด้านวิชาการ
สาขาการวิจัย
  • วิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ

ภาพที่เกี่ยวข้อง

เอกสารเพิ่มเติม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง