ชื่อโครงการวิจัย/ชื่อเรื่อง |
รูปทรงความสามัคคีจากวิถีธรรมชาติ |
ชื่อนักวิจัย/ชื่อผู้แต่ง |
บุญเกิด ศรีสุขา |
เจ้าของผลงานร่วม |
นัฏฐา มณฑล |
คำสำคัญ |
รูปทรง,ความสามัคคี,วิถีธรรมชาติ,ประติมากรรมกับสิ่งแวดล้อม;Form,Harmonic,Nature,Sculpture Installation |
หน่วยงาน |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คณะศิลปกรรมและออกแบบอุตสาหกรรม |
ปีที่เผยแพร่ |
2562 |
คำอธิบาย |
รูปทรงความสามัคคีจากวิถีธรรมชาติ เป็นการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมร่วมสมัย ในลักษณะ 3 มิติ รูปแบบกึ่งนามธรรม โดยได้นำรูปทรงและคุณค่าของปรัชญาความสามัคคีที่มีอยู่ในวิถีของธรรมชาติ และปลวกคือสัตว์สังคม ที่มีลักษณะเด่นด้านความสามัคคี มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เพื่อสื่อให้เห็นถึงคุณค่าของการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้คนในชุมชนกับสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศของป่าหนองระเวียง โดยวัตถุประสงค์ในการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมชุดนี้ คือ 1) เพื่อสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมรูปแบบเฉพาะตนจากปรัชญาธรรมชาติที่แสดงถึงความสามัคคี 2) เพื่อเผยแพร่ความรู้เข้าใจในกระบวนการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมร่วมสมัยรูปแบบเฉพาะตนสู่สาธารณชน ขั้นตอนในการสร้างสรรค์ เริ่มจากการกำหนด ภาพร่าง 2 มิติ บนกระดาษ เพื่อการค้นหาโครงสร้างและทิศทางของรูปทรง เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการทำต้นแบบ 3 มิติ เพื่อแก้ปัญหาด้านเทคนิค และองค์ประกอบศิลป์ 3 มิติ พร้อมทั้งขยายเป็นผลงานจริง ตามขนาดที่กำหนดไว้ ให้สมบูรณ์ตามต้นแบบ 3 มิติ ทำสีผลงาน และติดตั้งในสถานที่จริง เป็นขั้นตอนสุดท้าย
ผลงานประติมากรรม ชื่อ รูปทรงความสามัคคีจากวิถีธรรมชาติ ขนาด 413 x 413 x 608 เซนติเมตร เทคนิค เชื่อมโลหะ ซีเมนต์ ประกอบดินเผา
ผลการวิจัยพบว่า แนวความคิดในการสร้างสรรค์ประติมากรรม “รูปทรงความสามัคคีจากวิถีธรรมชาติ” คือ การสื่อให้เห็นถึงคุณค่าของป่าหนองระเวียง ซึ่งเป็นป่าผืนสุดท้ายที่อยู่รายรอบไปด้วยเมือง โดยมีความต้องการให้ผู้คนในชุมชนได้เล็งเห็นความสำคัญของป่าและอยู่ร่วมกันกับป่าอย่างเกื้อกูลต่อกัน จึงได้นำเสนอคุณค่าของความสามัคคีที่มีอยู่ในปรัชญาธรรมชาติเป็นแนวความคิดหลักในการเชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับสิ่งมีชีวิตต่างๆที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศภายใต้ป่าหนองระเวียง ซึ่งอาศัยความงามและคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์ของรูปทรงเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยง ด้านรูปแบบ เป็นผลงานประติมากรรมกับสิ่งแวดล้อม รูปแบบกึ่งนามธรรม โดยใช้กิจกรรมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เป็นการประทับรอยมือบนแผ่นดินเหนียว และมาประกอบสร้างเป็นส่วนหนึ่งในผลงานประติมากรรมนี้ ด้านเนื้อหา ได้ให้ความสำคัญกับความสามัคคีซึ่งเป็นหัวใจหลักในการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตทั้งมนุษย์และสัตว์ เป็นการร่วมมือร่วมพลัง ของสิ่งต่างๆจากหน่วยย่อยให้เพิ่มจำนวนและเพิ่มพลังในการต่อสู้ปกป้อง รวมทั้งต้านทานภัยร้ายต่างๆจากธรรมชาติ และยึดถือแบบแผนที่ถูกต้องตามหลักสัจธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมั่นคงในสังคม ด้านเทคนิควิธีการ ใช้วิธีการเชื่อมประกอบโลหะของโครงสร้างหลัก การประทับรอยมือลงบนแผ่นดินเหนียวและนำไปเผาแบบเตาฟืนเพื่อให้ได้สีแดงอิฐที่แสดงถึงเอกลักษณ์ตามธรรมชาติ และนำเทคนิคการปั้นปูนสดเพื่อให้เกิดพื้นผิวที่น่าสนใจมาประกอบกับเครื่องปั้นดินเผา จึงทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความหลากหลายของมิติทางด้านวัสดุและสีสันที่ได้จากสีสังเคราะห์และสีธรรมชาติผสมผสานกันได้อย่างลงตัว |
สาขาการวิจัย |
|