ชื่อโครงการวิจัย/ชื่อเรื่อง การพัฒนาเครื่องมือตรวจวัดแบบพกพาเพื่อระบุการปนเปื้อนของแบคทีเรียอีโคไลในน้ำผิวดิน
ชื่อโครงการวิจัย/ชื่อเรื่อง ภาษาอังกฤษ Development of a portable microbial detection system for identifying contamination of Escherichia coli in surface water
ชื่อนักวิจัย/ชื่อผู้แต่ง รศ.น.สพ.ดร. วิน สุรเชษฐพงษ์
ชื่อนักวิจัย/ชื่อผู้แต่ง ภาษาอังกฤษ Associate Professor Win Surachetpong
เจ้าของผลงานร่วม ดร.ขวัญรวี สิริกาญจน , ดร.วิบูลย์ ปิยวัฒนาเมธา
คำสำคัญ เบต้ากลูคูโรนิเดส;เครื่องมือตรวจวัดการเรืองแสงฟลูออเรสเซนสต์แบบพกพา;การตรวจวัดคุณภาพน้ำ;อีโคไล
หน่วยงาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปีที่เผยแพร่ 2565
คำอธิบาย ประเทศไทยประสบปัญหาคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมในแหล่งน้ำผิวดินมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะมีมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำจากตัวบ่งชี้ต่าง ๆ ทางจุลชีววิทยา แต่การเก็บตัวอย่างเพื่อขนส่งกลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการต้องใช้เวลา มีค่าใช้จ่ายสูง และอาจไม่ทันต่อสถานการณ์เพื่อแก้ไขปัญหา การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครื่องมือระบุการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไล (E. coli) ในน้ำผิวดินแบบพกพา โดยอาศัยการตรวจวัดค่าความเข้มแสงฟลูออเรสเซนต์ที่เกิดจากปฏิกิริยาของเอนไซม์เบต้ากลูคูโรนิเดสของเชื้ออีโคไล ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ใช้ชี้วัดการปนเปื้อนของสิ่งปฏิกูลจากสัตว์เลือดอุ่นที่มีการใช้ในมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาและยุโรป การศึกษานี้อาศัยหลักการทดสอบการทำปฏิกิริยาระหว่างเอนไซม์เบต้ากลูคูโรนิเดสกับสารตั้งต้น MUG (Methylumbelliferyl ß-D-glucuronide) ในสภาวะที่เหมาะสม การทดสอบความไวและความจำเพาะของวิธีตรวจ และนำหลักการดังกล่าวไปประกอบกับการสร้างเครื่องมือตรวจวัดแสงฟลูออเรสเซนต์แบบพกพา เพื่อใช้ระบุการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลในภาคสนาม ผลการศึกษาพบว่าสภาวะความเป็นกรดด่างในช่วง pH 6.8−7.0 เหมาะสมในการเกิดปฏิกิริยาของเอนไซม์ โดยให้ค่าความเข้มแสงฟลูออเรสเซนต์สูงที่สุด การเพิ่มปริมาณสารตั้งต้น MUG (500 ไมโครโมลาร์) และเพิ่มระยะเวลาในการบ่มปฏิกิริยา (2–4 ชั่วโมง) ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส จะช่วยเพิ่มค่าความเข้มแสงฟลูออเรสเซนต์ การทดสอบความไวในการตรวจวัดของเครื่องมือตรวจวัดฯ พบว่าสามารถตรวจวัดปริมาณเชื้ออีโคไลที่ผสมในสารละลายบัฟเฟอร์ PBS pH 7.0 ได้ในระดับต่ำสุด 105 โคโลนีต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร และในน้ำตัวอย่างได้ในระดับต่ำสุด 107 โคโลนีต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร ในขณะที่การตรวจวัดการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ พบว่าเครื่องมือตรวจวัดฯ สามารถตรวจวัดปริมาณเชื้อได้ในระดับ 102 โคโลนีต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ในแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 2 และ 3 ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าสายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียที่นำมาใช้ในการทดสอบ รวมถึงปริมาณสารอินทรีย์ที่มีอยู่ในน้ำ มีผลต่อความไวในการตรวจวัด โดยอาจส่งผลต่อการทำปฏิกิริยาของเอนไซม์และการแปลผลค่าความเข้มของแสงฟลูออเรสเซนต์ จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือตรวจวัดให้สามารถตรวจวัดเชื้อแบคทีเรียในตัวอย่างน้ำประเภทต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตามการทดสอบการทำปฏิกิริยาเอนไซม์กับแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ ที่พบได้บ่อยในน้ำ ไม่พบการสร้างแสงฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งช่วยยืนยันความจำเพาะของวิธีที่สามารถใช้ระบุการปนเปื้อนของเชื้ออีโคไลในน้ำได้เป็นอย่างดี การพัฒนาเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพน้ำแบบพกพาเพื่อระบุการปนเปื้อนของสิ่งปฏิกูลในน้ำผิวดินที่มีความไวและความแม่นยำสูง จะช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถใช้เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพแหล่งน้ำ โดยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีราคาถูกและลดการนำเข้าจากต่างประเทศ
กลุ่มการนำไปใช้ประโยชน์ ด้านสังคม/ชุมชน
สาขาการวิจัย
  • วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
  • วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
Creative Commons License


การพัฒนาเครื่องมือตรวจวัดแบบพกพาเพื่อระบุการปนเปื้อนของแบคทีเรียอีโคไลในน้ำผิวดิน is licensed under a Creative Commons Attribution 3.0 Thailand License.


ภาพที่เกี่ยวข้อง

เอกสารเพิ่มเติม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง